Top 5 Co-Working Space ใกล้ BTS สำหรับคนรักการทำงานนอกบ้าน

ปัจจุบันการทำงานไม่ได้จำกัดอยู่ที่โต๊ะออฟฟิศอีกต่อไปและหลายๆคนที่รู้สึกเบื่อกับที่ทำงานเดิมๆก็อาจจะเริ่มมองหาที่ทำงานใหม่ที่ช่วยกระตุ้นให้สดชื่น มีบรรยากาศดี และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ก็มีทางเลือกอย่าง Coworking space จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นด้วยด้วยจุดเด่นของแต่ละที่ที่ไม่เหมือนกัน สีสันและดีไซน์ หรือโลเคชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ชาวเมืองทั้งสตาร์ทอัพ ฟรีแลนซ์ ผู้ประกอบการ หรือคนที่อยากทำงานนอกบ้าน

วันนี้โฮมฟายเดอร์ได้นำ Co-working ชั้นนำในกรุงเทพมหานครที่มีจุดเด่นหลากหลายแตกต่างกันไปมานำเสนอให้คนที่สนใจในการทำงานนอกบ้านได้มีตัวเลือกดีๆ กันค่ะ

1.     HUBBA Thailand

HUBBA ถือว่าเป็นผู้ริเริ่ม Coworking space แห่งแรกในไทยกับการให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมโดยได้ตั้งตัวเป็นพื้นที่และศูนย์กลางสำหรับทั้งสตาร์ทอัพ นักลงทุนแบบ Venture Capital ฟรีแลนซ์ และคนทำงานสายเทคโนโลยีดิจิทัลเช่น ดีไซน์เนอร์ โปรแกรมเมอร์ บล็อกเกอร์

HUBBA มีถึง 3 สาขา ได้แก่ สาขาเอกมัย สาทรและอ่อนนุช มีลักษณะกาตกแต่งเป็นบ้านสีขาวพร้อมด้วยสวนในบ้านให้ความรู้สึกธรรมชาติและผ่อนคลาย คล้ายกับ Home office พร้อมกับที่จอดรถ ภายในมีห้องประชุมส่วนตัว โซนโต๊ะทำงาน สวน และพื้นที่พูดคุยได้ ส่วนสาขาตรงอ่อนนุชอย่าง HUBBA-TO ก็มีจุดเด่นอย่างห้องประชุมและโซนที่หลากหลายกับการตกแต่งสไตล์ Loft ด้วยปูนเปลือย โดยทุกสาขาเปิดให้บริการสำหรับสมาชิกตลอด 24 ชม. เรียกว่าตอบโจทย์คนทำงานที่มีไลฟ์สไตล์น่าสนใจหลากหลายเลยทีเดียว

        2.      Paperwork

อีก Coworking space ย่านสาทรที่เราไม่พูดถึงไม่ได้คือ Paperwork ด้วยตัวเลือกที่นั่งแบบหลากหลายให้คนทำงานได้มาเลือกใช้ คอยรองรับทั้งฟรีแลนซ์ นักธุรกิจ สตาร์ทอัพ คนจัดอบรม และดีไซน์เนอร์หรือนักออกแบบที่มาใช้งานได้โดยสามารถเข้าถึง Material Library ได้อีกด้วยซึ่งเป็นห้องสมุดที่รวมหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งภายในไว้ให้อ่านเพิ่มเพื่อ ไอเดียใหม่ๆได้ สำหรับ Paperwork Bangkok

การตกแต่งภายนที่นี่เน้นใช้ไม้ และโคมไฟดีไซน์สวย มีโซนที่ตกแต่งด้วยสีขาวดำเป็นหลักให้ความรู้สึกเท่และโมเดิร์น นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้ได้อย่าง เครื่องปริ้นท์และเครื่องแสกน เครื่องดื่ม ตู้ล็อกเกอร์ และบริการทำความสะอาด ส่วนโซนหลัก จะเป็นโต๊ะทำงานสำหรับ Walk in ห้องประชุม พร้อมอุปกรณ์การประชุมอย่างไวท์บอร์ด Flipchart และสมาร์ททีวี และยังมีพื้นที่จัดอีเว้นท์ที่รองรับคนได้เป็นจำนวนมากสำหรับงานที่ต้องการมีการพบปะค่ะ

      3.      Unionspace

อีกหนึ่งที่ในย่านธุรกิจเช่นเดียวกัน กับ  Unionspace ตั้งอยู่ที่ สุขุมวิท 61 ใครที่สนใจสามารถเดินทางด้วย BTS มาลงที่สถานีเอกมัยได้เลยค่ะ ซึ่งข้างในก็จะแบ่งเป็นชั้น ๆ ส่วนของชั้น 1 จะเป็นห้องประชุม และชั้น 2 จะให้บรรยากาศเหมือนห้องคุยงานขนาดเล็กลงมาหน่อย สำหรับชั้น 3 ก็เป็นชั้นที่เป็นห้องส่วนตัวสำหรับการทำงานที่ต้องใชช้สมาธิ ต้องการทำงานคนเดียว ทางร้านก็เลยมีโซนนั่งแบบเงียบ ๆ ไว้ให้ และยังมีในส่วนของคาเฟ่อีกด้วย ใครหิวระหว่างทำงานก็ไม่ต้องกังวลกันเลยค่ะ

     4.    Launchpad

ตกแต่งด้วยสีสันสดใสและพื้นที่โล่งโปร่งให้ความรู้สึกสไตล์ห้องนั่งเล่น ที่ทำให้การทำงานของคุณนั้นผ่อนคลายเหมือนทำงานอยู่บ้านอย่างสนุกสนาน Launchpad เป็น Co working space ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เหล่าสตาร์ทอัพ หรือคนทำงานในสายเทคโนโลยี โดยชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับการทำงานแบบรายวัน มีห้องประชุม รวมถึงพื้นที่จัดอีเวนต์ที่รองรับคนได้จำนวนมาก ส่วนชั้นบนรองรับออฟฟิศเช่ารายเดือน มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งล็อกเกอร์ ห้องสันทนาการที่มีทั้งโต๊ะปิงปองและเครื่องเล่นเกม คาเฟ่ รวมถึงที่จอดรถอีกด้วยค่ะ

5. THE HIVE BANGKOK

co – working space ที่มีพื้นที่ใช้งานถึง 6 โซนด้วยกัน ได้แก่ โซนสำหรับแชร์โต๊ะทำงานนั่งร่วมกัน, โซนโต๊ะทำงานส่วนตัว, โซน lounge ที่เหมาะกับการนัดลูกค้ามาคุยงาน, โซนออฟฟิศและโซนสำหรับงานที่ต้องใช้พื้นที่ที่สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิก รวมถึงโซนห้องประชุม และความพิเศษอีกอย่างของ THE HIVE คือสมาชิกสามารถเข้าไปใช้บริการ THE HIVE ในต่างประเทศได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสำหรับค่าบริการยังถูกมากๆโดยคิดเป็นแพคเกจตามการสมัครสมาชิก เริ่มต้นที่ 350 บาท ต่อวันเท่านั้นเองค่ะ