ออฟฟิศ 4 ประเภท ที่จะช่วยให้คุณเลือกออฟฟิศได้เหมาะกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น

ผู้ประกอบการที่ต้องการเช่าออฟฟิศเคยคงเคยสงสัยใช่ไหมคะว่าทำไมออฟฟิศ สำนักงานต่างๆ ถึงมีหน้าตา รูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย ซึ่งออฟฟิศแต่ละรูปแบบก็ตอบโจทย์รูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันไปนั่นเอง ซึ่งออฟฟิศเช่าสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทมีลักษณะต่างกันและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1.      CO-Working Space

ออฟฟิศประเภทแรกที่จะนำมาแนะนำ คือ CO-Working Space ออฟฟิศสำนักงานรูปแบบนี้เป็นพื้นที่การทำงานโดยไม่จำกัดสังกัดค่ะ ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพไหนหรือมาจากบริษัทไหนคุณก็สามารถเข้ามาใช้บริการในการทำงานในบริเวณดังกล่าวได้เช่นกัน Co-Working Space จะมีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้คุณเหมือนกับออฟฟิศทั่วไปมีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องชงกาแฟ เครื่องถ่ายเอกสาร รวมทั้งอินเตอร์เน็ต แต่สิ่งที่แตกต่างจากออฟฟิศทั่วๆไปคือ คุณจะได้สังคมใหม่ๆ คุณสามารถเข้าไปเจอหลากหลายอาชีพในนั้น โดยแบงบริเวณใช้งานตามการเช่าของผู้ประกอบการ ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพมหานครมีออฟฟิศประเภทนี้จำนวนมาก ที่สำคัญราคาเช่าไม่ได้สูงมากและมักจะอยู่ใกล้บีทีเอสซึ่งง่ายต่อการเดินทางอีกด้วย นอกจากนี้การทำงานที่ Co-Working Space คุณอาจจะได้เพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ และมุมมองใหม่ๆในการทำงานกลับมาก็ได้นะคะ

           ข้อดีของ Co-Working Space คือราคาค่อนข้างถูก เหมาะกับเหล่า Start-up ที่มีพนักงานไม่มากนัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บรรยากาศเหมาะแก่การทำงานและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และไม่เงียบเหงา ที่สำคัญเดินทางสะดวกสบายเพราะมักจะอยู่ใกล้กับบีทีเอสนั่นเองค่ะ

           ข้อเสียของ Co-Working Space คือ เสียงค่อนข้างดังเนื่องจากมีคนจำนวนมากจึงอาจทำให้เสียสมาธิได้ ความเป็นส่วนตัวน้อย แม้จะมีห้องประชุม ห้องอบรมสัมมนาให้บริการด้วยก็จริง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นห้องกระจก ไม่ปิดทึบ และประสิทธิภาพการเก็บเสียงไม่ดีเท่าห้องที่ใช้ผนังปูนซีเมนต์ การประชุมหรืออบรมจึงมีความเป็นส่วนตัวน้อย

 

2.      Service Office

Service Office เป็นออฟฟิศ สำนักงานให้เช่าสำเร็จรูปที่มีบริการต่างๆที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เช่าครบถ้วน เช่น การตกแต่งและจัดเตรียมสถานที่ ให้คุณสามารถพร้อมใช้งานได้เลยค่ะ โดยออฟฟิศรูปแบบนี้เหมาะกับผู้เช่าที่ต้องการลดปัญหาความยุ่งยากในการจัดเตรียมออฟฟิศ สำนักงานลงได้ แถมยังสัญญาเช่าที่ยืดหยุ่นตามความต้องการในธุรกิจของคุณได้ โดยเหมาะสำหรับธุรกิจ SME หรือ New Set Up Company ที่พึ่งตั้งบริษัท

            ข้อดีของ Service Office  คือ ผู้ให้เช่าจะเป็นฝ่ายดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดโดยที่คุณไม่ต้องทำเอง ดังนั้นผู้เช่าจึงไม่มีภาระหรือค่าใช้จ่ายอื่นใดในการบำรุงรักษาสำนักงานเลย มีความยืดหยุ่นและเปิดรับการทำสัญญาระยะสั้นแบบเดือนต่อเดือนเผื่อว่าคุณต้องการขยับขยายธุรกิจของคุณ นอกจากนี้การเช่า Service Office ยังช่วยให้มีภาพลักษณ์ของบริษัดูมั่นคง โดยเฉพาะถ้าอยู่ในอาคารที่เป็นอาคารระดับ A

            ข้อเสียของ Service Office  คือ มีข้อจำกัดมากในการเปลี่ยนแปลงตกแต่งสิ่งต่างๆ อัตราค่าเช่าเฉลี่ยต่อหัวสูงกว่าการเช่าพื้นที่ว่างในอาคารสำนักงานปกติจึงไม่เหมาะสำหรับบริษัทที่มีพนักงานค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้คุณอาจต้องมีข้อจำกัด และกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามขึ้นอยู่กับผู้ให้เช่าของแต่ละอาคาร ทำให้บางครั้งขาดความเป็นอิสระได้

 

3.      Conventional Office

ออฟฟิศสำนักงานรูปแบบนี้ เป็นรูปแบบที่เปิดโอกาสแก่เจ้าของออฟฟิศ สำนักงาน ได้ออกแบบออฟฟิศ สำนักงานได้เองตามความต้องการ โดยพื้นที่ที่ให้มานั้น จะเป็นพื้นที่ว่าง ที่ผู้เช่าสามารถทำการตกแต่งพื้นที่ ปูพื้น จัดหาเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้สำนักงาน รวมไปถึงวางระบบภายในออฟฟิศของตนได้ด้วยตัวเอง โดยลักษณะนี้เหมาะสำหรับ บริษัทขนาดกลางหรือค่อนข้างใหญ่ หรือบริษัทระหว่างประเทศ เป็นต้น

           ข้อดีของ Conventional Office คือสามารถตกแต่งจัดสรรพื้นที่ให้เป็นตามความต้องการของตัวเองได้ ผู้ให้เช่าเป็นฝ่ายดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลางให้ นอกจากนี้อัตราค่าเช่าเฉลี่ยต่อคนยังถือว่าถูกกว่าการเช่าออฟฟิศสำเร็จรูป หรือServiced office อีกด้วย

           ข้อเสียของ Conventional Office คือ คุณอาจต้องใช้งบค่อนข้างมากในการตกแต่งจัดหาเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงานเองทั้งหมดในช่วงเริ่มต้นและต้องดูแลรักษาภายในพื้นที่เช่าเอง และที่สำคัญระยะเวลาของสัญญาในการเช่าส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่าระยะยาวคือสัญญาเช่า 3 ปี ซึ่งส่งผลให้ยากต่อการโยกย้ายธุรกิจ

 

4.      Virtual Office 

รูปแบบออฟฟิศที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้ ที่จะช่วยให้คุฯสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ในทุกที่ของทั่วโลก เหมาะสมเกือบทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะ IT และ E-Commerce เพียงแค่ผ่าน Internet แต่ก็มีข้อเสียบางประการก็คือ การขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันกับคนที่ทำงานร่วมกัน อาจจะเพียงแค่ผ่าน E-mail, Online-Conference หรือการ Skype เท่านั้น

            ข้อดีของ Virtual Office คือ ช่วยลดเวลาในการติดต่อสื่อสารและลดปัญหาเรื่องการเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่างๆภายในสำนักงานและยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานในสานักงาน เช่น ด้านแรงงาน ด้านเครื่องมือ และด้านสถานที่จัดเก็บเอกสาร

            ข้อเสียของ Virtual Office คือ ขาดการติดต่อหรือปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานในบริษัทและผู้บริหารต้องลงทุนสูง ซึ่งต้องวิเคราะห์ความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผล การปฏิบัติงาน ของพนักงาน

จะเห็นว่าออฟฟิศแต่ละประเภทมีรูปแบบและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันซึ่งเหมาะกับวัตถุประสงค์และประเภทธุรกิจที่แตกต่างกัน ผู้ประกอบการหลายท่านที่ยังไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเช่าออฟฟิศแบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ ลองปรึกษา Homefinder ให้เป็นตัวช่วยให้คุณได้ออฟฟิศที่ถูกใจ คุ้มค่า ตามความต้องการของคุณกันได้นะคะ